1.Google Analytics
เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการทำSEO เพราะให้ข้อมูลที่มีประโยชน์มากมายเกี่ยวกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์การทำการตลาด เช่น จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ , แหล่งที่มาช่องทางของการเข้าชม ระยะเวลาที่ผู้เข้าชมอยู่ในเว็บไซต์ ด้วยข้อมูลรายละเอียดจาก Google Analytics ทำให้ผู้ทำSEO สามารถปรับแต่งกลยุทธ์เนื้อหาทางการตลาดเพื่อให้ตอบโจทย์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ดีมากขึ้น
2. Google Search Console
เป็นเครื่องมือคุณภาพที่มีให้ใช้บริการฟรีตลอดการใช้งาน จาก Google ที่เต็มไปด้วยข้อมูลเชิงลึกซึ่งช่วยคุณในการตรวจสอบและดูแลเว็บไซต์ของคุณ สามารถบอกได้ว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณนั้นเข้ามาจาก keywords อะไร , บอกจำนวนการคลิกเข้าเว็บเราจากผลแสดงการค้นหาทั้งหมดของ Google , บอกจำนวนคนที่เห็นเว็บไซต์เรา จากการค้นหาทั้งหมดของ Google , บอกอัตราการคลิก (CTR) เมื่อเปรียบเทียบกับการแสดงผลทั้งหมดของGoogle , และมีการแจ้งเตือนของ Google เมื่อพบว่า URL มีข้อผิดพลาด หรือแจ้งปัญหาสแปมต่างๆ เป้นต้น
3. Structured Data Testing Tool
เป็นเครื่องมือที่ให้ใช้บริการฟรีจาก Google เป็นเครื่องมือตรวจสอบ Structured Data หรือ ข้อมูลที่มีรูปแบบเป็นโครงสร้างที่ เพื่อให้อธิบายว่าแต่ละส่วนของเนื้อหาหมายถึงอะไร เมื่อ Google เข้ามาเก็บข้อมูลก็จะเข้าใจได้ว่าเว็บไซต์นี้เกี่ยวกับอะไรและควรนำไปแสดงเป็นผลการค้นหาอย่างไร ทำให้การจัดเก็บข้อมูลของ Google นั้นสะดวกมากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม และซึ่งประโยชน์นั้นกลับมาอยู่ที่เจ้าของเว็บไซต์ ที่สามารถสื่อให้ Google รู้ ว่าเว็บไซต์เรานั้นชื่ออะไร มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับอะไร ขายสินค้าอะไรและมีการให้บริการอย่างไร และทำให้การแสดงผลการค้นก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น Google สามารถดึงข้อมูลเหล่านี้มาประมวลผลในการจัดอันดับผลของการค้นหาและแสดงผลของเว็บไซต์ ที่มีเนื้อหาข้อมูล หรือมีสินค้าหรือบริการ ให้แสดงผลออกมาให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้ค้นหาต้องการมากที่สุด
4.Ahrefs
เครื่องมือวิเคราะห์ Backlink ที่มีประสิทธิภาพมากตัวหนึ่ง มีลิงก์มากกว่าหนึ่งล้านล้านลิงก์ ที่อัปเดตอย่างน้อยวันละครั้ง มีข้อมูลที่สามารถนำมาใช้วิเคราห์ได้มากมาย ทั้ง backlink บอกkeywordที่ผู้ใช้เข้ามายังเว็บไซต์ ซึ่งเหมาะมากที่จะนำมาใช้เพื่อการวิเคราะห์คู่แข่งในการทำ SEO
5. Majestic
เป็นเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของ backlinks ที่เข้ามายังเว็บไซต์ สามารถตรวจสอบได้ว่า backlinks ที่เข้ามานั้นมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับอะไร อยู่ในหมวดหมู่อะไร ซึ่งGoogle นั้นให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือของเนื้อหาภายในเว็บไซต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลที่มีผลกระทบต่อการจัดอันดับการแสดงผลการค้นหา โดยพิจารณาจากหมวดหมู่ของ backlinks ที่เข้ามายังเว็บไซต์ด้วยว่ามีเนื้อหาที่เข้ามายังเว็บไซต์นั้นมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันหรือไม่ ในทางกลับกันหากลิงก์จากที่เข้ามาจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำหรือหมวดหมู่ของเนื้อหาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันอาจส่งผลเสียต่อการจัดอันดับของคุณได้เช่นกัน
6.Check my links
ใช้ตรวจสอบลิงค์ภายในหน้านั้นของเว็บไซต์ บอกสถานะของลิงค์ ว่าลิงไหนสมบูรณ์ ลิงค์ไหนมีความผิดปกติ ลิงค์ไหนหายไป และสามารถหาได้ว่าลิงค์ที่เสียนั้นอยู่ตรงไหนของหน้าเว็บไซต์
7. Seoquake
เป็นอีกเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการทำ SEO เพราะสามารถใช้วิเคราะห์คู่แข่งใน keyword เดียวกันได้ ซึ่งสามารถแสดงข้อมูล Title, Meta tag , PageRank ,Backlink จำนวน Index ,Keywords density ,whois (ใครเป็นผู้จดโดเมนนี้) , และยังสามารถดูรายละเอียดต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ซึ่งสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาการทำSEO ของตนเองได้
8. Mobile Friendly Test
อัลกอริทึมใหม่ๆของGoogle ส่วนใหญ่นั้นให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่ตอบสนองต่อการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือได้ดี ด้วยเหตุนี้เอง เครื่องมือทดสอบการตอบสนองของเว็บไซต์กับมือถือของ Google จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยคุณให้ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตหรือไม่ เพียงคุณพิมพ์ URL ของเว็บไซต์ของคุณลงไป แล้วเครื่องมือจะแจ้งให้คุณทราบว่าเว็บไซต์ของคุณเหมาะกับการใช้งานบนมือถือหรือไม่ และเครื่องมือนี้ยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้ที่เป็นมิตรกับการใช้งานบนมือถือ และยังช่วยให้คุณทราบว่า Google สามารถเข้าถึงทรัพยากรทั้งหมดได้ในหน้าใดหน้าหนึ่งได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ และต้องทำอย่างไรหากไม่สามารถเข้าถึงได้ทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ mobile first index & accelerated mobile pages
9.Ubersuggest
เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ Keyword เหมาะมากสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับการซื้อเครื่องมือ เพราะมีให้ทดลองใช้ฟรีๆ โดยการใช้งานที่ง่ายทำให้เข้าใจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพระดับนึง แต่ถ้าเป็นKeyword ภาษาไทยบางคำยังคงมีข้อมูลน้อยอยู่ ซึ่งสามารถบอกค่าความยากง่ายของการแข่งขัน Keyword คำนั้นๆ , บอกอัตราการแข่งขัน keyword แบบใช้Ads , บอกอัตราราคา Search Ad ที่ต้องจ่ายต่อคลิก ของคำนั้นๆ
10. Screaming Frog
เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์และช่วยในการทำSEO ได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างมาก เนื่องจาก Screaming Frog นั้นสามารถรวบรวมข้อมูลต่างๆภายในเว็บไซต์และถึงออกมาให้เราเห็นภาพและข้อมูลทั้งหมดได้โดยง่ายๆ อาทิ Title , Description , H1 ของหน้าต่างๆ หรือ แสดง ปัญหาความผิดพลาดของหน้าต่างๆภายในในเว็บไซต์ (404)ที่มีผลต่อ SEO โดยสามารถแสดง
URL ทั้งหมดที่มีในเว็บไซต์ หรือ URL ที่ซ้ำกัน ให้เราเห็นได้โดยง่าย โดยเราไม่ต้องไปไล่หาความผิดพลาดหรือข้อมูลของหน้าต่างๆภายในเว็บไซต์ด้วยตัวเองทีละหน้า
Recent Comments